วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Mail Spam กับ Mail Bomb คืออะไร


Mail Spam กับ Mail Bomb คืออะไร


   ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารผ่านทาง จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป้นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั้งในระดับบุคคล ระดับองค์กร เพื่อการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจหรือการติดต่อสื่อสารส่วนตัวก็ตาม ซึ่งอีเมลแอดเดรสของแต่ละคนก้เปรียบเสมือนที่อยู่ในการส่งไปรษณีย์นั่นเอง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารผ่านโลกออนไลน์มีมากขึ้น ดังนั้นการติดต่อสื่อสารผ่านทางอีเมลย่อมมีความเสี่ยงต่อการถูกนำข้อมูลอีเมลไปและทำการส่ง Spam มายังอีเมลของเราได้ 
ซึ่งประเภทของจดหมายอิเลคทรอนิกส์ก่อกวน มีดังนี้
  • Spam mail คือ จดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่ผู้ส่งส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตัวเองมี
  • Chain mail คือ เป็นจดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่มีข้อความเหมือนจดหมายลูกโซ่ที่เราเคยได้รับโดย ทั่วไป เนื้อหาก็จะเป็นเรื่องคำเตือนเกี่ยวกับไวรัส หรือเรื่องอื่น ๆ แต่ที่สำคัญคือ บอกว่าให้ส่งข้อความนี้ให้กับคนที่รู้จัก
  • Bomb mail คือ การก่อกวนผู้รับจดหมายอิเลคทรอ-นิกส์ หรือระบบจดหมายอิเลคทรอนิกส์ของเครือข่าย โดยส่งจดหมายอิเลคทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก ๆ ไปยังผู้รับจดหมายอิเลคทรอนิกส์หรือระบบจดหมายอิเลคทรอนิกส์
  • Mail Virus เป็นจดหมายอิเลคทรอนิกส์ที่มี Attached File เป็นไวรัสที่ติดมากับจดหมายอิเลคทรอนิกส์ด้วย ซึ่งไวรัสนี้สามารถ execute ได้เมื่อผู้อ่านคลิกเพื่อเปิดไฟล์นั้น
  • Hoax mail เป็นรูปแบบหนึ่งของการก่อกวนที่มีผลต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก โดยไวรัสหลอกลวงพวกนี้จะมาในรูปของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การส่งข้อความต่อ ๆ กันไปผ่านทางโปรแกรมรับส่งข้อความ หรือห้องสนทนาต่าง ๆ ซึ่งสามารถสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นได้มากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นกับเทคนิค และการใช้จิตวิทยาของผู้สร้างข่าวขึ้นมา

Mail Spam / Bomb คืออะไร

Spam mail คืออีเมลที่เราไม่ต้องการ เป็นประเภทหนึ่งของ Junk mail หลายคนสับสนคำว่า Spam mail กับคำว่า Bomb mail จุดประสงค์ของ Spam mail นั้น ผู้ส่งส่วนใหญ่ต้องการโฆษณาบริการต่าง ๆ ที่ตัวเองมี ส่วนจุดประสงค์หลักของ Bomb mail คือการก่อกวนผู้รับหรือระบบเมล์ของเครื่องข่ายนั้น ๆ โดยทั่วไป Spam Mail เป็นการส่งอีเมลแต่ละฉบับไปหาคนจำนวนมาก ส่วน Bomb mail เป็นการเมล์จำนวนมากไปหาคน ๆ หนึ่งหรือระบบเมล์ใดระบบเมล์หนึ่ง
คำว่า SPAM จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นคำย่อมาจากคำใด และก็ไม่เคยมีความหมายในภาษาอังกฤษมาก่อน เพียงแต่เป็นคำแสลงที่ใช้ในการเรียกอีเมลที่ส่งมาเพือมีจุดประสงค์ในการ โฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์, บริจาค, ขอความช่วยเหลือ หรืออื่น ๆ ซึ่งสร้างความรำคาญในกับผู้ใช้อีเมลหากได้รับอีเมลประเภทนี้มาเกินไป

Spam เกิดขึ้นได้อย่างไร

ก็อย่างที่เรารู้กันว่าการส่งอีเมลเป็นการสื่อสารที่เสียค่าใช่จ่ายน้อยและ สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้จำนวนมาก ผู้ที่สร้าง SPAM ก็คือพวกที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดเพื่อจุดประสงค์ใน การโฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์ ทางธุรกิจของตน จึงใช้วิธีการให้ได้มาซึ่งอีเมลแอดเดรสของกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้า หมาย ซึ่งอาจเป็นได้จากหลายกรณี เช่น การที่เราส่งต่ออีเมลต่าง ๆ, การใช้อีเมลแอดเดรสในการสมัครสมาชิกของกลุ่มข่าว (newsgroup) หรือสมัครสมาชิกของเว็บไซต์ต่าง ๆ

วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับอีเมล์ (1)



ศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับอีเมล์


MIME


       MIME หรือที่ย่อมาจาก Multipurpose internet Mail Extensions คือ มาตรฐานสำหรับระบุชนิดของข้อมูล ซึ่งถูกคิดค้นมาเพื่อการแนบไฟล์ไปกับอีเมล์ (E-mail) แต่ต่อมาถูกใช้ในงานอื่นๆด้วย เช่น ระบบเว็บ (Web) ในเรื่องของเท็กซ์/เอชทีเอ็มแอล (text/html) คือ ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร และเป็นข้อมูล HTML

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

SMTP คืออะไร



SMTP คืออะไร

SMTP ก็คือ Simple Mail Transfer Protocol โดยที่ SMTP นั้นเป็นเสมือนตัวกลางที่ใช้ส่งข้อความหากัน ระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยระบุคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องเป็น IP หรือหากมองแบบง่ายๆ เปรียบเหมือนการใช้งานโทรศัพท์ คือ หมายเลขโทรศัพท์ = IP , เครือข่าย = SMTP , ข้อความ = อีเมล์ ซึ่งโดยปกติแล้ว SMTP จะประกอบด้วย E-mail, Username, Password, Mail Sever ซึ่งอธิบายองค์ประกอบทั้ง 4 ได้ ดังนี้
1.      Email เช่น admin@nipamail.com เป็นต้น
2.     Username = admin , Domain name = nipamail.com โดยปกติแล้วสัญลักษณ์ @ จะบ่งบอกว่ามาจาก Domain ใด ซึ่งโดยปกติแล้ว ต้องมี E-mail จึงจะสามารถส่งผ่าน SMTP ได้ ซึ่งส่วนมากจะส่งอีเมล์ผ่าน Port25 และ Port587 By SSL (ซึ่งสำหรับท่านที่เป็นนักธุรกิจและใช้ Outlook หรือโปรแกรมอื่นๆ บน Mobile Device ควรใช้ Port587 By SSL ในการส่งอีเมล์เพื่อเข้ารหัสก่อนจะถึงปลายทางเพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไม Port587 By SSL มีความปลอดภัยมากขึ้นขอยกตัวอย่างง่ายๆให้เห็นภาพ เช่น การส่งอีเมล์ 1 ฉบับ ส่งข้อความว่า “วันนี้หุ้น PPT จะขึ้น 100 บาท”  ข้อความนี้จะไม่ถูกเข้ารหัสเป็น Text จะถูกส่งไปเป็นข้อความเหมือนข้างต้นทุกประการตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง แต่ถ้าใช้ Port587 SSL ข้อความจะถูกแปลงเป็นการเข้ารหัส เช่น “XXX XXX XXX XXX” ระหว่างทางการส่งจากต้นทางไปยังปลายทางก็จะไม่มีใครทราบว่าข้อความที่เราส่งนั้นเป็นข้อความอะไร มีเพียงผู้รับปลายทางเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลแนะนำให้ส่งอเมล์ด้วย Port587 SSL)
3.     Password ในส่วนนี้ไม่ขอพูดถึง เพราะ Password ของแต่ละท่านควรผ่านการตั้งค่าที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับแต่ละท่านเองอยู่แล้ว
4.     Mail Server โดยปกติแล้วจะเป็น SMTP.domainname.com , domainname.com จะมี E-mail Service ต่างๆ ที่แต่ละท่านใช้บริการอยู่ ถ้าเป็นบริการฟรี ได้แก่ gmail.com, yahoo.com, Hotmail.com เป็นต้น โดยที่การส่งอีเมล์ผ่าน SMTP นั้นมีอัตราการส่ง Spam box สูงมาก หากใช้ E-mail Service ที่ค่อนข้างไม่มีประสิทธิภาพ ผู้รับปลายทางอาจไม่ได้รับอีเมล์ได้เนื่องจากอีเมล์นั้นเข้าไปอยู่ที่ถังขยะนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

ความหมายและส่วนประกอบของอีเมล



ความหมายและส่วนประกอบของอีเมล

อีเมล (E-Mail) คือ จดหมายอิเลคทรอนิกส์ ที่ใช้รับ-ส่งโดยผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ใช้งานโดยพิมพ์ข้อความ จากนั้นก็คลิกคำสั่ง เพื่อส่งออกไป โดยจะมีชื่อของผู้รับ ซึ่งเราเรียกว่า Email Address เป็นหลักในการรับ-ส่ง
ส่วนประกอบของอีเมลแอดเดรส ประกอบด้วย
-      ชื่อบัญชีสมาชิกของผู้ใช้เรียกว่า user name อาจใช้ชื่อจริง ชื่อเล่น หรือชื่อองค์กร
-      เครื่องหมาย @ ( at) อ่านว่า แอท  และโดเมนเนม (Domain Name) เป็นที่อยู่ของอินเทอร์เน็ตเซิร์ฟเวอร์ เพื่ออ้างถึงเมลเซิร์ฟเวอร์
-      ส่วนสุดท้ายเป็นรหัสบอกประเภทขององค์กรและประเทศ ในที่นี้คือ .co.th โดยที่ .co หมายถึง commercial เป็นบริการเกี่ยวกับการค้า ส่วน .th หมายถึง Thailand อยู่ในประเทศไทย
ส่วนประกอบของอีเมล
จะใช้ในลักษณะของ MIME อินเทอร์เน็ตอีเมล ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักแยกจากกัน คือ
1. ส่วนหัว Header E-mail ส่วนหัวของอีเมล กำหนดตามมาตรฐาน RFC 2822 โดยทั่วไปส่วนหัวประกอบด้วยข้อความและตามด้วยเครื่องหมาย ":" และตามด้วยข้อมูล ในแต่ละข้อมูลจะประกอบไปด้วยอย่างน้อย 4 หัวข้อ ได้แก่
1.1 จาก : ที่อยู่อีเมลผู้ส่ง และอาจจะประกอบด้วย ชื่อและนามสกุล
1.2 ถึง : ที่อยู่อีเมลผู้รับ และอาจจะประกอบด้วย ชื่อและนามสกุล สามารถมีได้มากกว่า 1 คน แยกกันด้วย เครื่องหมาย ","
1.3 หัวข้อเรื่อง : สรุปเนื้อความของข้อมูลเพื่อให้ผู้รับสามารถเข้าใจเนื้อหาของข้อความคร่าวๆ
1.4 สำเนา (Cc, Carbon copy)ใช้สำหรับในการส่งข้อความเดียวกันให้คนอื่น (ที่ใช้เครื่องพิมพ์ดีด กระดาษคาร์บอน ใช้ซ้อนในการพิมพ์จดหมาย)
2.  ส่วนเนื้อความของอีเมลเป็นเนื้อหาที่ต้องการสื่อสาร ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ และอาจแนบไฟล์ไปกับเนื้อหาได้ด้วยการแบ่ง MIME แบบ multipart
โครงสร้างและรูปแบบของชื่ออีเมล์ในเบื้องต้น
       ถ้าได้เห็นรูปแบบ และชื่อของอีเมล์มาบ้างแล้ว ลองมาศึกษาระบบการตั้งชื่ออีเมล์กัน สมมติว่าใครคนหนึ่ง บอกอีเมล์ของเขามาว่า somchai@hotmail.com (อ่านออกเสียงว่า สมชาย-แอต-ฮอทเมล์ ดอทคอม)เครื่องหมาย @ จะออกเสียงว่า "แอต"ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ใช้คั่นอยู่ระหว่าง ชื่อและ server ของอีเมล์นั้น ๆ เสมอ ชื่อของ server ที่ลงท้ายนี้ อาจจะเปลี่ยนไปได้ตามชื่อของ server ที่เปิดให้บริการอีเมล์นั้น ๆ ด้วยเช่น อาจจะลงท้ายด้วย @yahoo.com @thailand.com @mail.com หรืออะไรก็ได้ที่มีเปิดให้บริการ...  

ที่มา www.nipamail.com/faq

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2557

วัดความสำเร็จจากการทำการตลาดผ่านอีเมล์




วัดความสำเร็จจากการทำการตลาดผ่านอีเมล์

       การทำการตลาดผ่านอีเมล์ที่ดีนั้น จะต้องสามารถวัดผลได้เช่นเดียวกับการทำการตลาดออนไลน์ในรูปแบบอื่นๆ และด้วยเทคโนโลยีการทำการตลาดผ่านอีเมล์ทำให้การวัดผลสำเร็จนั้นมีความแม่นยำมากกว่าการทำการตลาดออนไลน์รูปแบบอื่นๆ
หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่าจะรูได้อย่างไรว่าผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์?
ด้วยระบบการส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งนั้น จะมีรายงานอัตราการเปิดอ่าน (Open Rate) ซึ่งหมายถึง จำนวนผู้รับอีเมล์ที่เปิดอ่านหารด้วยจำนวนอีเมล์ที่ส่งออกไปทั้งหมด
ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า จะทราบได้อย่างไรว่า ผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์ที่เราส่งไป วิธีการง่ายๆ คือ ระบบจะทำการแทรกโค้ดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นไว้ในตัวอีเมล์ที่ใช้ส่ง โดยที่โค้ดเล็กๆ นี้จะส่งค่ากลับมาแจ้งว่าผู้รับอีเมล์เปิดหรือยังไม่ได้เปิดอีเมล์ที่ส่งไป อยากไรก็ตามโค้ดเหล่านี้จะใช้ได้เฉพาะกับเนื้อหาอีเมล์ที่ถูกส่งไปในรูปแบบของ HTML เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีวิธีการวัดผลความสำเร็จของการทำการตลาดผ่านอีเมล์ หรืออีเมล์มาร์เก็ตติ้งที่มากกว่าเพียงการแสดงตัวเลขของอัตราการเปิดอ่านเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างต่างต้องขึ้นอยู่กับวัตถุปรสงค์ที่ผู้ส่งกำหนดไว้ตั้งแต่แรก ตัวแปรที่ใช้ในการวัดผลความสำเร็จประกอบด้วย
« อัตราการเปิดอ่าน การทราบอัตราการเปิดอ่านอีเมล์เป็นตัวเลขที่สำคัญมากและเป็นตัวเลขพื้นฐานที่ผู้ส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งจะต้องทราบในการส่งอีเมล์ออกไปแต่ละแคมเปญ อย่างไรก็ตามอัตราการเปิดจะใช้ไม่ได้กับการส่งอีเมล์ที่เป็นรูปแบบของ Text และในความเป็นจริงแล้ว อาจจะไม่สามารถทราบได้ว่าผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์นั้นจริง หรือเพียงแต่คลิกที่อีเมล์แล้วลบทิ้งทันที ซึ่งการคลิกที่อีเมล์นั้นๆแล้วลบทันทีก็จะถูกพิจารณาว่าเป็นการเปิดอ่านเช่นกัน สำหรับตัวเลขอัตราการเปิดนี้จะเป็นตัวเลขที่ช่วยวิเคราะห์ความสนใจในตัวอีเมล์ที่ส่งออกไป และยังสามารถตรวจสอบได้ว่าอีเมล์นั้นๆ ยังใช้งานอยู่หรือไม่ หรือผู้รับอีเมล์อาจไม่เคยเปิดอ่านอีเมบ์เลยตั้งแต่เราส่งอีเมล์ออกไปเลยก็เป็นได้ ซึ่งต้องทำการพิจารณาเป็นรายกรณีไป
« อัตราการคลิกลิงค์ต่างๆ ในอีเมล์ (Click Rate) ในอีเมล์ที่ทำการส่งออกไปนั้นอาจจะประกอบไปด้วยข้อความ รูปภาพสินค้า บทความต่างๆ เป็นต้น และถือเป็นเรื่องที่ดีหากเราสามารถทราบได้ว่าผู้เปิดอ่านอีเมล์สนใจคลิกอ่านต่อหรือสนใจคลิกในส่วนไหนของเนื้อหาอีเมบ์บ้าง ดังนั้นจึงมีวิธีการง่ายๆ ด้วยการแทรกโค้ด URL ในเนื้อหาอีเมล์ตามจุดต่างๆ ที่เราต้องการ และทำการเก็บสถิติการคลิกกลับมายังผู้ส่งอีเมล์นั้นๆ ได้ ซึ่งตัวเลขอัตราการคลิกนี้ จะช่วยในการวิเคราะห์ความสนใจของผู้รับอีเมล์ว่าสนใจสินค้าประเถทใดบ้าง ข้อมูลนี้จะทำให้สามารนำไปจัดกลุ่มผู้รับอีเมล์ในครั้งต่อๆไปได้ เพื่อให้เกิดกลุ่มผู้รับอีเมล์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
« จำนวนการยกเลิกการรับอีเมล์ข่าวสาร (Unsubscribe) อีเมล์ทุกฉบับที่ส่งออกไปนั้น จะต้องมีลิ้งค์สำหรับให้ผู้รับอีเมล์สามารถกดเพื่อยกเลิกการรับอีเมล์ฉบับต่อไปได้ด้วย ไม่ควรส่งอีเมล์ออกไปหาผู้รับโดยที่ผู้รับไม่เต็มใจที่จะรับอีเมล์ โดยหากตัวเลขการยกเลิกการรับอีเมล์นั้นมีจำนวนไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่หากตัวเลขการยกเลิกการรับอีเมล์ข่าวสารมีจำนวนมากผิดปกติเมื่อเทียบกับจำนวนผู้รับอีเมล์ทั้งหมด ควรจะต้องทำการวิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เนื้อหาของอีเมล์ หรือรายชื่ออีเมล์ที่ได้มานั้นไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือจะด้วยสาเหตุอื่นๆก็ตาม   
« จำนวนสมาชิกใหม่ (New Subscribe) หากมีจำนวนตัวเลขสมาชิกใหม่ๆที่ต้องการรับข่าวสารทางอีเมล์เพิ่มขึ้นย่อมเป็นผลดีต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์ แต่หากมีตัวเลขที่ไม่เพิ่มขึ้นควรต้องพิจารณาถึงวิธีการรับสมัครสมาชิกใหม่ๆ หรือพิจารณาปัจจัยการตลาดด้านเนื้อหา จำนวนการส่งต่ออีเมล์ถึงเพื่อน (Send To Friends/Forward) ซึ่งการเพิ่มฟังก์ชันนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์เนื้อหาในอีเมล์ให้สามารถส่งต่อถึงผู้อื่นได้อีกด้วย และตัวเลขนี้จะเป็นข้อมูลที่ช่วยวิเคราะห์คสามสนใจของผู้เปิดอ่านอีเมล์ได้อีกด้วย
« สุดท้ายนี้ หากต้องการวัดผลการตลาดผ่านอีเมล์ที่ชัดเจน ควรจะสร้างโปรโมชั่นเฉพาะสำรับการส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งในแต่ละแคมเปญและมีการกำหนดระยะเวลาของแต่ละแคมเปญไว้อย่างชัดเจนด้วย มิฉะนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมไม่เกิดความแม่นยำด้วย

สนใจบริการอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nipamail.com
                                   หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ โทร: 086-019-4000