วัดความสำเร็จจากการทำการตลาดผ่านอีเมล์
การทำการตลาดผ่านอีเมล์ที่ดีนั้น
จะต้องสามารถวัดผลได้เช่นเดียวกับการทำการตลาดออนไลน์ในรูปแบบอื่นๆ
และด้วยเทคโนโลยีการทำการตลาดผ่านอีเมล์ทำให้การวัดผลสำเร็จนั้นมีความแม่นยำมากกว่าการทำการตลาดออนไลน์รูปแบบอื่นๆ
หลายๆ ท่านอาจสงสัยว่าจะรูได้อย่างไรว่าผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์?
ด้วยระบบการส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งนั้น
จะมีรายงานอัตราการเปิดอ่าน
(Open Rate) ซึ่งหมายถึง
จำนวนผู้รับอีเมล์ที่เปิดอ่านหารด้วยจำนวนอีเมล์ที่ส่งออกไปทั้งหมด
ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า
จะทราบได้อย่างไรว่า ผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์ที่เราส่งไป วิธีการง่ายๆ คือ
ระบบจะทำการแทรกโค้ดเล็กๆ ที่มองไม่เห็นไว้ในตัวอีเมล์ที่ใช้ส่ง โดยที่โค้ดเล็กๆ นี้จะส่งค่ากลับมาแจ้งว่าผู้รับอีเมล์เปิดหรือยังไม่ได้เปิดอีเมล์ที่ส่งไป
อยากไรก็ตามโค้ดเหล่านี้จะใช้ได้เฉพาะกับเนื้อหาอีเมล์ที่ถูกส่งไปในรูปแบบของ HTML เท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีวิธีการวัดผลความสำเร็จของการทำการตลาดผ่านอีเมล์
หรืออีเมล์มาร์เก็ตติ้งที่มากกว่าเพียงการแสดงตัวเลขของอัตราการเปิดอ่านเท่านั้น
ซึ่งทุกอย่างต่างต้องขึ้นอยู่กับวัตถุปรสงค์ที่ผู้ส่งกำหนดไว้ตั้งแต่แรก
ตัวแปรที่ใช้ในการวัดผลความสำเร็จประกอบด้วย
« อัตราการเปิดอ่าน การทราบอัตราการเปิดอ่านอีเมล์เป็นตัวเลขที่สำคัญมากและเป็นตัวเลขพื้นฐานที่ผู้ส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งจะต้องทราบในการส่งอีเมล์ออกไปแต่ละแคมเปญ
อย่างไรก็ตามอัตราการเปิดจะใช้ไม่ได้กับการส่งอีเมล์ที่เป็นรูปแบบของ Text และในความเป็นจริงแล้ว
อาจจะไม่สามารถทราบได้ว่าผู้รับอีเมล์เปิดอ่านอีเมล์นั้นจริง
หรือเพียงแต่คลิกที่อีเมล์แล้วลบทิ้งทันที ซึ่งการคลิกที่อีเมล์นั้นๆแล้วลบทันทีก็จะถูกพิจารณาว่าเป็นการเปิดอ่านเช่นกัน
สำหรับตัวเลขอัตราการเปิดนี้จะเป็นตัวเลขที่ช่วยวิเคราะห์ความสนใจในตัวอีเมล์ที่ส่งออกไป
และยังสามารถตรวจสอบได้ว่าอีเมล์นั้นๆ ยังใช้งานอยู่หรือไม่ หรือผู้รับอีเมล์อาจไม่เคยเปิดอ่านอีเมบ์เลยตั้งแต่เราส่งอีเมล์ออกไปเลยก็เป็นได้
ซึ่งต้องทำการพิจารณาเป็นรายกรณีไป
« อัตราการคลิกลิงค์ต่างๆ
ในอีเมล์ (Click Rate) ในอีเมล์ที่ทำการส่งออกไปนั้นอาจจะประกอบไปด้วยข้อความ
รูปภาพสินค้า บทความต่างๆ เป็นต้น
และถือเป็นเรื่องที่ดีหากเราสามารถทราบได้ว่าผู้เปิดอ่านอีเมล์สนใจคลิกอ่านต่อหรือสนใจคลิกในส่วนไหนของเนื้อหาอีเมบ์บ้าง
ดังนั้นจึงมีวิธีการง่ายๆ ด้วยการแทรกโค้ด URL ในเนื้อหาอีเมล์ตามจุดต่างๆ
ที่เราต้องการ และทำการเก็บสถิติการคลิกกลับมายังผู้ส่งอีเมล์นั้นๆ ได้
ซึ่งตัวเลขอัตราการคลิกนี้
จะช่วยในการวิเคราะห์ความสนใจของผู้รับอีเมล์ว่าสนใจสินค้าประเถทใดบ้าง
ข้อมูลนี้จะทำให้สามารนำไปจัดกลุ่มผู้รับอีเมล์ในครั้งต่อๆไปได้
เพื่อให้เกิดกลุ่มผู้รับอีเมล์ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
« จำนวนการยกเลิกการรับอีเมล์ข่าวสาร
(Unsubscribe)
อีเมล์ทุกฉบับที่ส่งออกไปนั้น
จะต้องมีลิ้งค์สำหรับให้ผู้รับอีเมล์สามารถกดเพื่อยกเลิกการรับอีเมล์ฉบับต่อไปได้ด้วย
ไม่ควรส่งอีเมล์ออกไปหาผู้รับโดยที่ผู้รับไม่เต็มใจที่จะรับอีเมล์
โดยหากตัวเลขการยกเลิกการรับอีเมล์นั้นมีจำนวนไม่มากก็ไม่จำเป็นต้องกังวล
เพราะเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้
แต่หากตัวเลขการยกเลิกการรับอีเมล์ข่าวสารมีจำนวนมากผิดปกติเมื่อเทียบกับจำนวนผู้รับอีเมล์ทั้งหมด
ควรจะต้องทำการวิเคราะห์แล้วว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เนื้อหาของอีเมล์
หรือรายชื่ออีเมล์ที่ได้มานั้นไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือจะด้วยสาเหตุอื่นๆก็ตาม
« จำนวนสมาชิกใหม่ (New
Subscribe) หากมีจำนวนตัวเลขสมาชิกใหม่ๆที่ต้องการรับข่าวสารทางอีเมล์เพิ่มขึ้นย่อมเป็นผลดีต่อสินค้าและผลิตภัณฑ์
แต่หากมีตัวเลขที่ไม่เพิ่มขึ้นควรต้องพิจารณาถึงวิธีการรับสมัครสมาชิกใหม่ๆ
หรือพิจารณาปัจจัยการตลาดด้านเนื้อหา จำนวนการส่งต่ออีเมล์ถึงเพื่อน (Send
To Friends/Forward) ซึ่งการเพิ่มฟังก์ชันนี้จะเป็นการช่วยเพิ่มการประชาสัมพันธ์เนื้อหาในอีเมล์ให้สามารถส่งต่อถึงผู้อื่นได้อีกด้วย
และตัวเลขนี้จะเป็นข้อมูลที่ช่วยวิเคราะห์คสามสนใจของผู้เปิดอ่านอีเมล์ได้อีกด้วย
« สุดท้ายนี้
หากต้องการวัดผลการตลาดผ่านอีเมล์ที่ชัดเจน ควรจะสร้างโปรโมชั่นเฉพาะสำรับการส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้งในแต่ละแคมเปญและมีการกำหนดระยะเวลาของแต่ละแคมเปญไว้อย่างชัดเจนด้วย
มิฉะนั้นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมไม่เกิดความแม่นยำด้วย
สนใจบริการอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง
ติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nipamail.com
หมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ
โทร: 086-019-4000
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น